วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ลดหน้าท้องเร่งด่วนอย่างง่าย

ลดหน้าท้องเร่งด่วนอย่างง่าย ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
         1.ทานอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำ การทานอาหารที่เต็มไปด้วยน้ำจะช่วยทำให้การทานแคลอลี่โดยรวมของคุณลดน้อยลง จากผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐแพนซิวาเนีย พบว่า การทานอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำ เช่น มะเขือเทษ แตงกวา ในมื้อแต่ละมื้ออาหาร ซุป และสลัด จะช่วย ลดหน้าท้อง ลดการใช้แคลอลี่โดยรวมของคุณให้น้อยลง ด้วยความหนาแน่นของเส้นใยอาหาร และน้ำนั่นเอง ซึ่งเป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง



 
         2.เพิ่มมื้ออาหารของคุณด้วยผักจำนวนมาก เช่น บล็อกโคลี่ แครอท มะเขือเทศ เป็นต้น ถ้าหากคุณสามารถที่จะเพิ่มผักเข้าไปในมื้ออาหารในอัตรา 1 : 1 กับเนื้อสัตว์ หรือข้าว เพียงเท่านั้นก็จะเป็นการช่วยทำให้น้ำหนักตัวโดยรวมของคุณลดลงอย่างได้ผลแล้ว


 
         3.ชงกาแฟดื่มเอง กาแฟสดจากร้านทั่วไปมักที่จะมีส่วนผสมของวิปครีม ครีมเทียน น้ำตาล นมสด ซึ่งสิ่งเฟล่านี้ล้วนแล้วอุดมไปด้วยพลังงานมหาศาล แต่ถ้าหากคุณเปลี่ยนมาชงกาแฟดื่มด้วยตัวเอง คุณก็สามารถที่จะเลือกส่วนประกอบภายในกาแฟได้ด้วยตัวเอง ทำให้คุณสามารถได้รับประโยชน์ที่แท้จริงของกาแฟตามธณรมชาติ แถมยังเป็นวิธีลดหน้าท้องที่ได้ผลเป็นอย่างดีอีกด้วย


 
         4.ทานธัญพืชเป็นอาหารเช้า อย่างน้อย 5 วัน ต่อสัปดาห์ จากการศึกษาพบว่า คนที่ทานธัญพืชเป็นอาหารเช้าประจำทุกวัน มีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโณคอ้วน และโรคเบาหวานน้อยกว่าคนที่ไม่ทาน นอกจากนี้ในธัญพืชยังมีเส้นใยอาหาร แคลเซียม และไขมันที่น้อยกว่าการทานอาหารเช้าประเภทอื่นๆ สำหรับอาหารเช้าประเภทธัญพืชที่น่าสนใจ ได้แก่ ข้าวโอ๊ต องุ่นอยแห้ง หรือถั่ว เป็นต้น


 
         5.กินผลไม้แทนการดื่มน้ำผลไม้ หลายคนอาจจะชื่นชอบการดื่มน้ำผลไม้สำเร็จรูปจากกล่อง หรือขวดเล็กๆ แต่ที่จริงแล้วส่วนผสมของน้ำผลไม้เหล่านั้น มักที่จะมีน้ำตาล เป็นส่วนผสมให้คุณได้รับพลังงานส่วนเกินมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ แต่คุณสามารถที่จะเพลิดพลินกับรสชาติของแอปเปิ้ล ส้ม และแตงโมชิ้น ผลไม้เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่สามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับคุณมากขึ้น และยัง ลดหน้าท้อง ลดความอยากอาหารโดยรวมให้น้อยลงอีกด้วย

       

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

20 วิธีลดต้นแขน


ออกกำลังกายลดต้นแขน

  1. กระโดดเชือก เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเฟิร์มแขนได้ดีนัก เพราะตลอดเวลาที่เล่น แขนเราจะเกร็ง แถมมีการหมุนแขนเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา หากทำวันละร้อยครั้งเพียงไม่กี่วันก็จะช่วยทำให้แขนเฟิร์มขึ้นได้
  2. การวิ่งเป็นประจำ ให้วิ่งวันละประมาณ 30-60 นาที อย่างน้อย 4 ครั้ง ต่อสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยลดไขมันได้ทั่วร่างกายรวมทั้งต้นแขนของคุณ
  3. ว่ายน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง การว่ายน้ำจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนแขนและส่วนขาได้เป็นอย่างดี ทำให้สัดส่วนต่าง ๆ กระชับขึ้น รูปร่างได้สัดส่วน โดยหากเราว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานไปได้ถึง 800 แคลอรี ซึ่งนักวิ่งจ๊อกกิ้งอาจจะต้องวิ่งเป็นระยะทางถึง 4 เท่า ของการว่ายน้ำ จึงจะเผาผลาญแคลอรีได้ในจำนวนเท่ากัน
  4. เครื่องออกกำลังกายลดต้นแขน (Rowing Machine) หาเล่นได้ในฟิตเนสทั่วไปครับ โดยให้เล่นอย่างน้อยเป็นเวลา 20 นาที ในครั้งเดียว ร่างกายจะเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขนได้เป็นอย่างดี
  5. เครื่องวิ่งกึ่งสเต็ปหรือเครื่องเดินวงรี (Elliptical) ก็ได้ครับ ช่วยลดได้ทั้งต้นแขนและขา หาเล่นได้ในฟิตเนสทั่วไปครับ
  6. ชกลม เป็นการออกกำลังกายส่วนท่อนแขนและหัวไหล่ ทำให้ได้รูปทรงและกระชับมากขึ้น โดยให้ก้าวเท้าด้านใดด้านหนึ่งออกไปข้างหน้า ยืนให้มั่นคง กำหมัดเปล่า ๆ แล้วชกตรงออกไปข้างหน้า เวลาชกให้ขาข้างที่ชกเหยียดตึง สะโพกบิดตามการชกเล็กน้อย สลับกันทำซ้ายและขวา
  7. ฮูลาฮูปแขน เป็นการออกกำลังลดต้นแขนโดยใช้ฮูลาฮูปที่มีขายทั่วไปที่เราเอาไว้ใช้หมุนรอบเอวนี่แหละ แต่ให้เอามาหมุนไปรอบ ๆ แขนแทน โดยเริ่มจากต้นแขนแล้วไล่ลงมาจนถึงข้อมือสลับกันซ้ายและขวา หรือจะทำให้พร้อมกันสองข้างเลยก็ได้ถ้ามีฮูลาฮูป 2 วง
  8. เหยียดบ่อย ๆ นอกจากจะออกกำลังกายบริหารลดต้นแขนที่ควรทำเป็นประจำแล้ว ถ้าคุณอยากให้ต้นแขนลดลงไว ๆ ยิ่งขึ้นไปอีก ก็อย่าปล่อยเวลาเหล่านี้ให้เปล่าประโยชน์ เพราะทุกที่ทุกเวลาคุณก็สามารถบริหารเพื่อเพิ่มความเพรียวของต้นแขนได้ เช่น ตอนตื่นนอน ให้วอร์มอัพร่างกายก่อนลุกจากที่นอน ด้วยการเหยียดมือขึ้นประสานไว้เหนือศีรษะให้สุดแขน แล้วเอี้ยวตัวไปทางซ้ายให้สุดและเอี้ยวมาทางขวาให้สุด ส่วนตอนรถติดทำอะไรไม่ได้ก็จับพวงมาลัยให้มั่นแล้วเกร็งแขนดันหน้าอกเข้าหาพวงมาลัย (คล้ายกับการวิดพื้น) เมื่อมาถึงที่ทำงาน ตอนนั่งทำงานคิดอะไรไม่ออก ตอนพักเบรก หรือมีเวลาว่าง ๆ ก็ให้เกร็งแขน แล้วดันเก้าอี้ที่นั่งอยู่ออกจากโต๊ะ แล้วก็ดึงกลับเข้ามาที่เดิม หรืออาจจะยกหนังสือหนัก ๆ ชูขึ้นไปทางซ้ายทีทางขวาทีก็ได้ และตอนเวลาคุณไปช็อปปิ้ง ก็ให้ใช้ถุงข้าวของสารพันที่ได้จากการช็อปนี้แหละมาใช้แทนดัมบ์เบลล์เลย เดิน ๆ ไปก็เกร็งแขนไป ยกถุงขึ้นลง จะช่วยให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว หรือแกว่งแขนไปมาเพื่อบริหารช่วงไหล่ก็ได้ เป็นต้น
  9. บริหารต้นแขนง่าย ๆ ด้วยท่าลดต้นแขน ดูในหัวข้อถัดไปได้เลยครับ
  10. โยคะลดต้นแขน การเล่นโยคะก็ช่วยลดต้นแขนได้เช่นกันครับ ดูได้ในหัวข้อสุดท้ายเลยครับ

วิธีการออกกำลังลดต้นขา

ออกกําลังกายลดต้นขา

  1. การเดิน หากใครชอบเดินก็ช่วยได้เช่นกัน เนื่องจากขณะที่เราเดินกล้ามเนื้อขาจะได้ทำงาน ทำให้ต้นขาของเรากระชับขึ้น ไม่เชื่อก็ลองทำดูสัก 1-2 เดือน แต่การเดินไม่ควรจะน้อยกว่า 30 นาที (เน้นเดินนะครับไม่ใช่วิ่ง)
  2. ขึ้นลงบันได สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็อาจลองใช้วิธีนี้ดูก็ได้ เพราะเป็นท่าที่สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา โดยมีรายงานว่าการเดินขึ้นลงบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้น สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมใน 1 ปี โดยการเดินขึ้นบันไดจะสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรีต่อนาที ซึ่งมากกว่าการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการเดินลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการเดินขึ้นบันได
  3. ทิ้งน้ำหนักตัวไปที่ขาทั้ง 2 ข้างให้เท่ากัน สำหรับคนที่ต้องยืนเป็นเวลานาน ๆ คุณไม่ควรทิ้งน้ำหนักไปยังขาข้างใดข้างหนึ่ง เพราะจะทำให้ขาของเรามีขนาดไม่เท่ากันได้ และถ้าต้องยืนเป็นเวลานานจริง ๆ ก็ให้ยืนตัวตรง ๆ แล้วไขว้ขาไปข้างหน้าและข้างหลังเบา ๆ
  4. กระโดดเชือก เป็นอีกวิธีออกกำลังกายที่สามารถช่วยลดไขมันบริเวณต้นขาได้ โดยกระโดดเพียงต่ำ ๆ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว โดยที่จะใช้ข้อเท้า กล้ามเนื้อน่อง รวมถึงการงอเข่าเล็กน้อยเพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทกลงได้อีกส่วนหนึ่ง การกระโดดแบบผิด ๆ ด้วยการกระโดดสูงเกินไปจะทำให้มีโอกาสทำให้เข่าพังจากแรงกระแทกที่สูงเกินไปได้
  5. ปั่นจักรยานลดต้นขา อีกหนึ่งวิธีลดเซลลูไลท์ต้นขา เพียงแค่คุณปั่นจักรยานหรือจักรยานไฟฟ้าแบบเร็ว ๆ โดยใช้เกียร์เบา ๆ ก็สามารถช่วยเผาผลาญไขมันและเซลลูไลท์บริเวณต้นขาได้ แต่มีข้อควรระวังคือห้ามใช้เกียร์หนักและปั่นช้า เพราะจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ และจะยิ่งทำให้ขาใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก
  6. เน้นออกกำลังกายที่ออกแรงได้ทุกส่วน เช่น การเต้นแอโรบิกเป็นประจำ เพราะจะช่วยทำให้หุ่นของคุณเฟิร์มกระชับขึ้นมาได้

    ท่าออกกําลังกายลดต้นขา

    1. ท่านอนหงายและยกขา ท่าบริหารลดต้นขาท่าแรกให้นอนหงายราบกับพื้น เหยียดขาตรง แล้วค่อย ๆ ยกขาขึ้นทั้งสองข้างค้างไว้ประมาณ 20 วินาที แล้วทำซ้ำติดกัน 20 ครั้ง (ภาพจาก : www.dek-d.com by NUGIRL)
    2. ท่านอนหงายไขว้ขางอเข่าชิดลำตัว ให้นอนหงายราบกับพื้น ขาเหยียดตรงไขว้ข้อเท้าทั้งสองข้าง แล้วงอเข่าเข้ามาชิดลำตัวให้มากที่สุด ค้างไว้สักพัก โดยข้อเท้ายังไขว้กันอยู่ แล้วค่อย ๆ ยืดขาออก จากนั้นคลายข้อเท้าทั้งสองข้างออกจากกัน โดยให้ทำติดต่อกัน 20 ครั้ง
    3. ท่านอนหงายยกขางอเข่าชิดหน้าอก ให้นอนหงายราบกับพื้น ประสานมือไว้ใต้ศีรษะ แล้วค่อย ๆ ยกขาซ้ายขึ้น งอเข่าเข้ามาให้ชิดหน้าอก แล้วค่อย ๆ เหยียดขาขวาขึ้นไปด้านบนจนสุด ค้างไว้สักพัก ทำสลับอีกข้าง ซ้ำไปมา 20 ครั้ง
    4. ท่าสะพานโค้งขาเดียว ให้นอนหงายทำท่าสะพานโค้งโดยใช้ขาข้างเดียว โดยให้ทำข้างละ 15 ครั้ง สลับกันไปมา
    5. ท่าปั่นจักรยานอากาศ โดยให้ปั่นอย่างน้อยวันละ 100-200 ครั้ง เวลาปั่นจะต้องออกแรงขาและทำอย่างรวดเร็วห้ามหยุดจนกว่าจะครบ สำหรับคนที่ขาใหญ่เพราะไขมัน ท่านี้มันช่วยได้เยอะจริง ๆ เพราะการปั่นจะช่วยเผาผลาญไขมันแล้วเปลี่ยนไปเป็นกล้ามเนื้อแทน แต่ก็ลดได้ไม่เทียบเท่ากับการปั่นจักรยานปกติ
    6. ท่านอนตะแคงยกขา ให้นอนราบในท่าตะแคงข้าง เหยียดขาให้สุด จากนั้นยกขาขึ้นลง ผลัดกันทำข้างละ 20 ครั้ง
    7. ท่านั่งตีขาไปมา ให้นั่งลงกับพื้นแล้วเหยียดขาให้ตรง จากนั้นค่อย ๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาตีไปมาสลับกันประมาณ 50-100 ครั้ง
    8. ท่านั่งตบใต้ขา ให้นั่งในท่าที่ขาตั้งขึ้น จากนั้นใช้มือตบบริเวณต้นขาเพื่อเป็นการสลายไขมัน โดยให้ทำข้างละประมาณ 5 นาที
    9. ท่านั่งเก้าอี้ยกขาเหยียดตรง ให้นั่งตัวตรงบนเก้าอี้หลังชิดกับผนัง แล้วยกขาทั้งสองข้างเหยียดตรงขึ้นมาให้อยู่ในแนวเดียวกับเก้าอี้ หายใจเข้า แล้วค่อย ๆ วางเท้าลงกับพื้น หายใจออกเบา ๆ ทำซ้ำไปมา 20 ครั้ง
    10. ท่านั่งเก้าอี้หนีบหนังสือ ให้นั่งหลังตรง หลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วให้นำหนังสือเล่มหนา ๆ มาหนีบไว้ระหว่างขา จากนั้นยกต้นขาขึ้นเล็กน้อยค้างเอาไว้ 10-15 วินาที แล้วทำซ้ำ 2-3 รอบ
    11. ท่าก้าวขึ้นเก้าอี้แล้วเตะอากาศ ก้าวขาซ้ายขึ้นเก้าอี้แล้วใช้เท้าขวาเตะอากาศ โดยให้ทำข้างละ 12 ครั้ง สลับข้างกันไปมา
    12. ท่ายืนย่อเข่า ออกกำลังกายด้วยการย่อเข่า ท่านี้นอกจากจะช่วยกำจัดไขมันและช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาได้แล้วยังช่วยลดต้นขาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย คล้าย ๆ กับการออกกำลังกายลุกนั่ง โดยให้เริ่มจากการยืนพร้อมกับใช้แขนทั้งสองประสานกันแล้วเหยียดตรงไปด้านหน้า กางขาออกให้กว้างประมาณไหล่ จากนั้นค่อย ๆ ย่อเข่าลงประมาณ 90 องศาฯ และยืดตัวขึ้นยืน โดยให้ลุกย่อไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 30 ครั้ง
    13. ท่ายืนขาชิด ให้ยืนตัวตรงขาชิด ก้าวเท้าข้างหนึ่งไปข้างหน้าแล้วค่อย ๆ ย่อตัวลง ทำสลับกันข้างละ 20 ครั้ง โดยให้ทำซ้ำกันประมาณ 3 รอบ
    14. ท่ายืนแยกขาย่อเข่าทรงตัว ให้ยืนแยกขาเล็กน้อย จากนั้นให้ยกเข่าซ้ายพับขึ้นมาชิดเข่าขวา ย่อเข่าลง โดยพยายามทรงตัวด้วยขาข้างเดียว ทำสลับกันข้างละ 15 ครั้ง และให้ทำซ้ำกันประมาณ 3 รอบ
    15. ท่ายืนแยกขาและเขย่งเท้า ให้ยืนตรงแล้วกางขาออกพอประมาณ จากนั้นให้เขย่งเท้าขึ้นให้สุดจนรู้สึกตึงที่น่อง ค้างไว้แล้วนับ 1-20 โดยให้ทำประมาณ 20 ครั้ง จะช่วยกระชับต้นขาและน่อง
    16. ท่ายืนยกขาไปด้านหลัง โดยให้ยืนแล้วยกขาซ้ายไปด้านหลัง ส่วนขาด้านขวาย่อลงเล็กน้อย โดยให้ทำข้างละ 10 ครั้ง สลับกันไปมา
    17. ท่ามือแตะขอบสระและเหวี่ยงขาทีละข้าง เมื่ออยู่ในน้ำให้ใช้แขนทั้งสองข้างจับขอบสระในท่าคว่ำหน้า แล้วยืดขาขึ้นมาเหยียดตรงให้ตัวลอยพร้อมกับตีขาเหวี่ยงไปมาทีละข้างจนเมื่อย โดยให้ทำสลับกันประมาณ 30 ครั้ง แล้วพักสักครู่ก่อนจะเริ่มทำใหม่
    18. ว่ายน้ำท่ากบ ให้ว่ายน้ำในท่ากบ โดยถีบและรวบขาให้เร็วและแรง ถ้าว่ายน้ำไม่เป็นให้เกาะขอบสระแล้วเตะน้ำไปเรื่อย ๆ หรือจะเกาะโฟมแล้วเตะน้ำไปเรื่อย ๆ ก็ได้
    19. ท่านั่งแตะบนเก้าอี้ เป็นท่ากระชับบั้นท้าย ลดต้นขาและน่อง ให้เริ่มจากยืนหันหลังให้เก้าอี้ ความห่างประมาณสะโพก สามารถนั่งได้บริเวณกึ่งกลางของเก้าอี้ แล้วกางขาออกให้อยู่ห่างประมาณสะโพก จากนั้นให้เกร็งหน้าท้อง แล้วค่อย ๆ หย่อนสะโพกลงช้า ๆ โดยที่หลังต้องตรง ไม่งอ เมื่อรู้สึกว่าสะโพกเริ่มแตะเก้าอี้ ก็ให้กลับเข้ามาสู่ท่าเดิม โดยให้ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 15 ครั้ง
    20. ท่ายกขาแตะบนเก้าอี้ ให้เริ่มจากยืนหน้าเก้าอี้ แล้วค่อย ๆ ยกขาขวาขึ้น โดยที่เข่าไม่งอ ส่วนปลายเท้าตั้งฉาก จากนั้นผ่อนลงจนส้นเท้าแตะกับพื้นเก้าอี้ แล้วให้เกร็งยกขึ้นมา โดยให้ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ก่อนจะสลับมาทำอีกข้าง โดยให้ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 15 ครั้ง
    21. ท่าตัววี เป็นท่าช่วยลดน่องและต้นขา และช่วยคลายความปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มจากยืนตรงหันข้างให้กับพนักเก้าอี้ ขยับเท้าให้ห่างประมาณไหล่ ใช้มือจับพนักพิงเก้าอี้ไว้ จากนั้นให้บิดปลายเท้าเปิด และค่อย ๆ ยกส้นเท้าขึ้น พร้อมกับค่อย ๆ ย่อลง ให้เข่าเปิดออกข้างเป็นรูปตัว V แล้วค่อย ๆ ย่อลงเรื่อย ๆ จนรู้สึกตึงหน้าขา จากนั้นให้กลับสู่ท่าแรกอย่างช้า ๆ แล้วเริ่มทำใหม่อีกครั้ง โดยให้ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 15 ครั้ง
    22. ท่าลดต้นขาด้านหน้า ให้นอนหงายราบลงบนพื้น แล้วสอดมือทั้งสองข้างรองไว้ที่ก้น งอเข่าซ้ายเข้าหาหน้าอก แล้วเหยียดขาขวาตรงขึ้นข้างบนอย่างช้า ๆ จนสุด แล้วค้างไว้ (จะรู้สึกตึงที่ต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง) จากนั้นให้กลับสู่ท่าเริ่มต้นใหม่ แล้วเอาเข่าขวางอเข้าหาหน้าอก แล้วเหยียดขาซ้ายตรงขึ้นข้างบนอย่างช้า ๆ จนสุด แล้วค้างไว้ โดยให้ทำสลับข้างกันให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง นับเป็น 1 เซต และให้ทำวันละ 3 เซต
    23. ท่าลดต้นขาด้านหลัง ให้นอนคว่ำหน้าลงบนหลังมือทั้งสองข้าง โดยมีเบาะรองพื้น จากนั้นกดสะโพกให้แนบติดพื้น พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเอาไว้ แล้วค่อย ๆ งอขาขวาเข้าหากันอย่างช้า ๆ โดยที่ต้นขาด้านหน้ายังแนบกับพื้น แล้วค้างไว้สักครู่ก่อนที่จะลดเท้าลงมา (จะรู้สึกตึงกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังในขณะปลายเท้างอเข้าใกล้กัน) โดยให้ทำสลับข้างกันให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง นับเป็น 1 เซต และให้ทำวันละ 3 เซต
    24. ท่าบริหารต้นขาด้านนอก ให้นอนตะแคงข้างซ้ายบนเบาะ ให้ร่างกายอยู่เป็นแนวเส้นตรง จากนั้นใช้แขนซ้ายหนุนศีรษะด้วยฝ่ามือ โดยที่ต้นแขนวางราบกับพื้น แล้วเอามือขวาวางบนพื้นด้านหน้าเพื่อช่วยพยุงน้ำหนักตัว ขาซ้ายเอียงเล็กน้อย สะโพกตรง เกร็งกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องไว้ แล้วค่อย ๆ ยกขาขวาขึ้นอย่างช้า ๆ จนสุดโดยไม่ต้องเกร็งหัวเข่า แล้วค้างไว้สักครู่ จากนั้นค่อย ๆ ลดขาลงแล้วหยุดอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย (จะรู้สึกตึงบริเวณต้นขาด้านนอกเมื่อยกขาขึ้น) โดยให้ทำสลับข้างกันให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง นับเป็น 1 เซต และให้ทำวันละ 3 เซต
    25. ท่าบริหารต้นขาด้านใน ให้นอนตะแคงข้างซ้ายบนเบาะ จากนั้นใช้แขนซ้ายหนุนศีรษะด้วยฝ่ามือ โดยต้นแขนวางราบกับพื้น แล้วให้งอเข่าขวาชี้ตรงมาด้านหน้า ท่อนล่างทำมุมฉากกับต้นขา โดยวางเข่าขวาบนพื้น หรือยกเหนือพื้นเล็กน้อย ส่วนขาซ้ายเหยียดตรง พยายามดึงกล้ามเนื้อจากเท้าขึ้นตามแนวของต้นขา แล้วยกขาซ้ายขึ้นสูงให้เป็นแนวเส้นตรง แล้วลดลง (จะรู้สึกตึงบริเวณต้นขาด้านในเมื่อยกขาขึ้นจากพื้น) โดยให้ทำสลับข้างกันให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง นับเป็น 1 เซต และให้ทำวันละ 3 เซต หรืออีกวิธีให้ยืนตรงแล้วเอามือเกาะผนังห้องหรือที่ยึดอื่น ๆ ตามถนัด จากนั้นให้เหวี่ยงขาข้างหนึ่งขึ้นลงให้สุด โดยให้ทำติดต่อกันข้างละ 30 ครั้ง สลับกันไปมา